แนะแนววิธีการจัดการ สาระน่ารู้หรือเคล็ดลับดีๆในการใช้บัตรเครดิตให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงหลายๆเรื่องที่คุณไม่รู้มาก่อน มาอัพเดทกันก่อนใคร ที่นี่ ..
ทุกเรื่องบัตรเครดิตที่คุณควรรู้
การนอนหลับเหมือนกับการกดปุ่มรีเซ็ตร่างกายและจิตใจให้ได้พักจากความเหนื่อยล้าในแต่ละวัน แต่เคยไหม ทั้งที่นอนหลับครบ 8 ชั่วโมงเต็มอิ่ม แต่เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมา กลับยังรู้สึกง่วงหาวนอน เหมือนคนนอนไม่อิ่ม ง่วงตลอดเวลา ราวกับว่านอนไปแค่ 8 นาที ซึ่งความรู้สึกเหล่านี้ อาจไม่ใช่แค่เรื่องความเหนื่อยล้า แต่อาจมีปัญหาการนอนไม่หลับอื่น ๆ แฝงอยู่ เครื่องมือหนึ่งที่ช่วยแก้อาการนอนไม่อิ่ม นอนไม่พอ คือ Sleep Test เพื่อให้คุณภาพการนอนดีขึ้น อยากชวนมาหาทางออกจากปัญหาการนอนไปพร้อมกัน
แม้จะตั้งนาฬิกาปลุกให้นอนครบ 8 ชั่วโมง แต่หากการนอนขาดคุณภาพ ร่างกายก็ไม่ได้รับการพักผ่อนที่แท้จริง โดยเฉพาะในชีวิตปัจจุบันที่ต้องเผชิญกับความเครียด มลภาวะ และพฤติกรรมที่ส่งผลเสียต่อการนอนโดยไม่รู้ตัว ซึ่ง 3 เหตุผลหลักที่ทำให้นอนไม่อิ่ม ง่วงตลอดเวลา ได้แก่
จริง ๆ แล้ว การนอนหลับคุณภาพดีไม่ใช่แค่เรื่องของระยะเวลา แต่ยังรวมถึงความลึกของการนอน หากหลับไม่ลึก (Deep Sleep) หรือสะดุ้งตื่นกลางดึกโดยไม่ทราบสาเหตุ จะทำให้วงจรการนอนถูกรบกวน ต่อให้นอนครบ 8 ชั่วโมง ตื่นมาก็ยังรู้สึกเหนื่อยล้าได้
ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) พบได้บ่อยในคนที่นอนกรน เกิดจากทางเดินหายใจแคบหรือถูกอุดกั้น ส่งผลให้ร่างกายหยุดหายใจชั่วคราว และต้องสะดุ้งตื่นเพื่อหายใจใหม่ วงจรการนอนจึงถูกรบกวนอย่างต่อเนื่อง
สภาพแวดล้อมในการนอนหลับนับเป็นอีกเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะสามารถทำให้คุณภาพการนอนแย่ลงได้ เป็นปัญหาการนอนหลับที่หลายคนต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็น แสงรบกวน เสียงดังรบกวนจากภายนอก อุณหภูมิห้องไม่คงที่ รวมถึงพฤติกรรมก่อนนอนอย่างการดื่มกาแฟมัทฉะที่มีคาเฟอีน หรือแอลกอฮอล์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยที่ทำให้นอนไม่อิ่ม ทำให้ร่างกายเหนื่อยล้าหลังจากตื่นขึ้นมา
ทั้ง 3 ปัจจัยนี้ล้วนส่งผลกระทบโดยตรงต่อคุณภาพการนอน ทำให้คุณนอนหลับไม่เต็มอิ่ม รู้สึกง่วงระหว่างวัน หรือแม้กระทั่งระหว่างทำงาน แม้คุณจะพยายามแก้ปัญหาด้วยการค้นหาใน Google ว่า “นอนไม่พอ กินอะไรให้สดชื่น” แล้วลองทำตาม แต่หากยังไม่ปรับพฤติกรรมหรือจัดการกับต้นตอของปัญหา การนอนของคุณก็อาจยังไม่เพียงพอ
จาก 3 ปัจจัยข้างจะเห็นได้ว่าหนึ่งในปัญหาการนอนหลับไม่สนิทที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ ‘ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ’ ซึ่งสามารถสังเกตได้จากการนอนกรนเพราะทางเดินหายใจแคบลง ซึ่งถ้าปล่อยเอาไว้โดยไม่รักษาอาจอันตรายถึงแก่ชีวิต ซึ่งวิธีที่จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้คือ การตรวจการนอนหลับ หรือ ‘Sleep Test’
การตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) คือ การตรวจวิเคราะห์ระบบการทำงานของร่างกายในระหว่างที่นอนหลับ เพื่อหาความผิดปกติของการนอนที่อาจส่งผลต่อคุณภาพของการนอน เช่น นอนกรน ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ หรือการกระตุกของกล้ามเนื้อ หรือความผิดปกติอื่นๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างหลับ
ซึ่งระหว่างการตรวจการนอนหลับ Sleep Test แพทย์จะติดอุปกรณ์เพื่อตรวจวัดค่าต่างๆ ที่เกิดขึ้น เช่น คลื่นสมอง อัตราการเต้นของหัวใจ ระดับออกซิเจนในเลือด และการเคลื่อนไหวของร่างกาย เพื่อใช้ประกอบการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาปัญหาการนอนหลับได้อย่างเหมาะสมของแต่ละคน
โดยวิธีการ Sleep Test นับเป็นวิธีที่ได้รับมาตรฐานในการวินิจฉัยของปัญหาการนอน เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ (OSA) เพราะถ้าปล่อยทิ้งเอาไว้ อาจเพิ่มความเสี่ยงไปยังโรคอื่นๆ ได้ เช่น ความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นผิดจังหวะ โรคหลอดเลือดสมอง หรือความผิดปกติของความจำในระยะยาวได้
การนอนหลับเป็นกิจวัตรประจำวันที่ทำกันอยู่แล้วทุกคืน ไม่ต้องคิดวางแผนให้ยุ่งยาก แต่ในขณะนั้นเองร่างกายขณะหลับก็กำลังทำงานอย่างซับซ้อนเพื่อฟื้นฟูร่างกาย ถ้าระบบใดระบบหนึ่งมีความผิดปกติ ก็จะส่งผลให้คุณภาพการนอนแย่ลง ทำให้นอนไม่อิ่ม ง่วงตลอดเวลา ดังนั้น ก่อนที่จะส่งผลกระทบระยะยาว นี่คือสัญญาณเตือนว่าคุณเข้าข่ายที่จะต้องเข้ารับการตรวจ Sleep Test แล้วหรือยัง
นอนกรนเสียงดังหรือมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
หากคนใกล้ตัวสังเกตว่าเวลานอนคุณมีเสียงกรนดังผิดปกติ หรือมีจังหวะที่หยุดหายใจไปชั่วขณะ แล้วค่อยสะดุ้งขึ้นมาหายใจใหม่ อาจเป็นสัญญาณของ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งเป็นภาวะที่พบได้บ่อย และหากปล่อยไว้โดยไม่ตรวจ Sleep Test อาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคหลอดเลือด หัวใจ และสมองได้
ถ้ารู้สึกว่าตื่นเช้ามาด้วยความรู้สึกไม่สดชื่น ง่วงทั้งวัน หรือถึงขั้นเผลอหลับในระหว่างทำงานหรือขับรถ ทั้งที่คืนก่อนก็ได้นอนเต็มที่แล้ว สัญญาณเหล่านี้อาจสะท้อนว่าการนอนของคุณไม่มีคุณภาพ และควรเข้ารับการตรวจ Sleep Test เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงว่าต้องแก้ยังไงบ้าง
ถึงแม้ว่า การกัดฟัน ละเมอ พูดละเมอ หรือสะดุ้งตื่นกลางดึกโดยไม่ทราบสาเหตุ เป็นพฤติกรรมที่อาจดูเล็กน้อยเมื่อนำไปเทียบกับภาวะหยุดหายใจขณะหลับ แต่ถ้าเกิดขึ้นบ่อย ๆ อาจส่งผลให้ร่างกายพักผ่อนไม่เต็มที่ นอนไม่อิ่ม ง่วงนอนตลอดเวลา ซึ่ง Sleep Test จะช่วยประเมินว่าพฤติกรรมเหล่านี้เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของระบบประสาทหรือการทำงานของสมองในระหว่างหลับด้วยหรือไม่
งานวิจัยหลายแห่งบอกว่าคนที่มีโรคเรื้อรัง เช่น ความดัน เบาหวาน หรือโรคหัวใจ มีความเกี่ยวข้องกับปัญหาการนอนหลับ เพราะการนอนไม่พอ นอนไม่อิ่ม อาจทำให้ระดับความดันเลือดแปรปรวน ค่าระดับน้ำตาลไม่คงที่ หรืออัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติได้ ดังนั้น คุณมีโรคเหล่านี้อยู่แล้ว การตรวจ Sleep Test จะช่วยให้มองเห็นภาพรวมสุขภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
Tip!
แต่ถ้าคุณใช้ชีวิตอยู่คนเดียว ไม่มีใครคอยสังเกตพฤติกรรมขณะหลับ ก็ยังสามารถติดตามการนอนของตัวเองได้ผ่านแอปพลิเคชันที่ช่วยวัดคุณภาพการนอนแบบใช้งานฟรี เช่น SnoreLab, ShutEye: Sleep Tracker, Sound หรือ Do I Snore or Grind ซึ่งสามารถบันทึกเสียงขณะนอนหลับ รวมถึงตรวจจับการกรน พฤติกรรมกัดฟัน หรือความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ได้อย่างละเอียด พร้อมให้คุณฟังย้อนหลังหรือดูสถิติได้เมื่อตื่น เพื่อใช้ประเมินว่าการนอนของคุณมีคุณภาพเพียงพอหรือไม่ ก่อนตัดสินใจ Sleep Test
มนุษย์ใช้เวลา 1 ใน 3 ของชีวิตไปกับการนอนหลับ เคยตั้งคำถามกับตนเองไหมว่า “การนอนมีคุณภาพแค่ไหน” ซี่งหลายคนอาจคิดว่า การตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) เหมาะสำหรับผู้ที่มีรูปร่างเกินมาตรฐาน นอนกรน หรือมีปัญหาสุขภาพที่ส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับ
ดังนั้น Sleep Test ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เข้าใจสุขภาพตัวเองมากขึ้น ซึ่งประโยชน์ที่จะได้รับ เมื่อทำ Sleep Test คือ
ถ้ามีอาการนอนไม่อิ่ม ง่วงตลอดเวลา อาจจะคิดว่าตัวเองแค่เครียด หรือแค่นอนไม่พอ แต่ Sleep Test จะช่วยตอบให้ชัดว่าเกิดจากอะไร เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ วงจรการนอนผิดปกติ หรือพฤติกรรมที่คุณไม่รู้ตัวตอนหลับ
เพราะแทนที่จะไปค้นหาว่า นอนไม่พอ กินอะไรดี หรือนอนไม่พอ กินอะไรให้สดชื่น แล้วพึ่งแค่คาเฟอีนหรือวิตามินเพื่อกระตุ้นความสดชื่นที่แก้ปัญหาปลายเหตุ ซึ่งการ Sleep Test จะช่วยให้แพทย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก และวางแผนการรักษาที่เหมาะกับคุณ เช่น การใช้เครื่องช่วยหายใจ (CPAP) การปรับพฤติกรรมการนอน หรือแม้แต่การดูแลร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านหัวใจหรือสมอง
คุณอาจไม่รู้ว่าการนอนหลับที่ไม่เพียงพอหรือไม่มีคุณภาพเป็นเวลานาน มีโอกาสเพิ่มความเสี่ยงของโรคร้ายแรงหลายชนิด เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน หัวใจเต้นผิดจังหวะ และภาวะซึมเศร้า ซึ่งการ Sleep Test จึงไม่ใช่แค่การ “วัด” แต่คือการ “ป้องกัน” ที่เริ่มต้นได้ด้วยการนอนอย่างมีคุณภาพ
อ่านถึงตรงนี้แล้วสงสัยว่าตนเองมีปัญหาการนอนไม่หลับ นอนไม่อิ่ม นอนไม่พอ ง่วงตลอดเวลา หรือเหนื่อยล้า แล้วกลัวว่าจะก้าวเข้าสู่ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ การเข้าตรวจ Sleep Test เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เมื่อต้องเข้าถึงการแพทย์อาจคิดต่อไปว่าถ้าเป็น Sleep Test โรงพยาบาลเอกชน หรือ Sleep Test ที่บ้านต้องมีค่าใช้จ่ายที่เกินรับไหว แต่รู้ไหมว่า สามารถ Sleep Test ประกันสังคมได้เช่นกัน คือ
ถ้าคุณมีอาการนอนไม่พอ นอนไม่อิ่ม ง่วงตลอดเวลา หรือสงสัยว่าตนเองมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ การตรวจ Sleep Test โดยใช้สิทธิ์ประกันสังคมหรือสิทธิ์อื่น ๆ ถือเป็นการลงทุนในสุขภาพระยะยาว
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลพริ้นซ์สุวรรณภูมิ, มหาวิทยาลัยมหิดล, กรุงเทพธุรกิจ